หมูกำแพง 2023-01-10

30 ที่เที่ยวภาคใต้ ฟีลซัมเมอร์ ห้ามพลาด!! ต้องไปเช็คอิน & รีวิว

 

ซัมเมอร์มาถึงแล้ว ร่างกายต้องการทะเลอย่างแรง เมืองไทยโชคดีตรงที่มีทะเลให้เที่ยวเยอะมาก

 

โดยเฉพาะทะเลใต้ที่สวยงามระดับโลก ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ที่ขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายขาว น้ำทะเลใส โลกใต้ทะเลสวยงามอลังการ ถ้าหากว่าพร้อมแล้วไปส่องโปรตั๋วเครื่องบินดี๊ดีในแอพ Traveloka มาจองตั๋วเครื่องบินให้พร้อม แล้วแพคเสื้อผ้า เตรียมชุดว่ายน้ำ แว่นกันแดด และครีมปกป้องผิว เดี๋ยวก่อน มาดูกันว่า “30 จุดเช็คอินภาคใต้ ฟีลซัมเมอร์” มีที่ไหนบ้าง แล้วค่อยออกเดินทางดีมั้ย

 

ทางไปเช็คราคาตั๋วเครื่องบิน กับ Traveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight

 

1. เกาะลังกาจิว (Lungga Jiew Island) ชุมพร (Chumphon)

 

 

เกาะลังกาจิวเป็นเกาะสัมปทานรังนก อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เป็นเกาะหินปูนที่มีโตรกหินสูงชัน เต็มไปด้วยโพรงถ้ำน้อยใหญ่มากมาย เป็นที่อยู่ของบรรดานกนางแอ่นมากมายหลายแสนตัว ตลอดจนค้างคาวบริเวณด้านหน้าของเกาะมีหาดทรายขาวยาวประมาณ 100 เมตร และมีแนวปะการังแบบชายฝั่งบริเวณด้านตะวันตกของเกาะ จุดเด่นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างหนึ่งบนเกาะลังกาจิวนี้ก็คือลายฝีพระหัตถ์จารึก จปร. และ ร.ศ. จำหลักอยู่บนแผ่นหินบริเวณด้านหน้าปากทางเข้าถ้ำนกนางแอ่น

 

—————–

 

2. อ่าวทุ่งซาง (Thung Sang Beach) ชุมพร (Chumphon)

 

 

อ่าวทุ่งซางตั้งอยู่ที่บ้านบางจาก ตำบลชุมโค อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เป็นอ่าวเล็กๆ ที่โค้งยาวคล้ายเสี้ยวพระจันทร์ มีความยาวประมาณ 1.3 กิโลเมตร  ตัวหาดอยู่ระหว่างแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลทั้งสองด้าน น้ำทะเลใส บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ พักผ่อน มีศาลาชมวิวบริเวณทางลงหาด ตอนใต้ของหาดมีหน้าผาและโขดหินที่มีรูปร่างแปลกตา ช่วงเวลาที่น้ำทะเลลดระดับสามารถเดินเที่ยวชมโขดหินบริเวณนั้นได้ เดินทางสะดวกมีถนนลาดยางเข้าถึงชายหาด

 

—————–

 

3. เกาะกุลา (Kula Island) ชุมพร (Chumphon)

 

 

อีกหนึ่งเกาะน่าเที่ยวของชุมพร อยู้ในพื้นที่ความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะทะเลชุมพร อำเภอสวี อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 20 นาที จุดเด่นคือหาดทรายขาว น้ำใสมากจนเห็นปะการังและฝูงปลา จุดเล่นน้ำอยู่บริเวณชายหาดด้านหน้า ที่มีสะพานเทียบเรือให้เดินเล่น หรือจะดำน้ำตื้นชมฝูงปลาว่ายไปมา  หรือพายเรือคายัคชมวิวรอบเกาะก็ได้เช่นกัน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือน อยู่ที่ระหว่างมกราคมถึงพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำใสที่สุด

 

—————–

 

4. หมู่เกาะช้างเผือก (Cock Burn Island) ระนอง (Ranong)

 

 

หมู่เกาะช้างเผือก หรือเกาะคอกเบิร์น ตั้งอยู่ในทะเลพม่า สามารถเดินทางไปเที่ยวได้แบบ One Day Trip จากท่าเรือระนอง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที หมู่เกาะแห่งนี้มีน้ำทะเลที่ใสมากๆ ธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์แบบสุดๆ ทั้ง ทุ่งหญ้า ทะเลแหวก หน้าผาหิน โลกใต้ทะเลสวยงามไม่แพ้ที่ไหนๆ ไฮไลท์ของที่นี่ คือการปีนภูเขาที่มีลักษณะเหมือนช้างกำลังเล่นน้ำ เพื่อชมวิวชายหาดสีขาวบริสุทธิ์สองด้าน เชื่อมต่อกันด้วยสันทราย มีรัศมีแนวน้ำตื้นสะท้อนแสงแดดเป็นประกาย แลดูคล้ายช้างเผือกอย่างน่าอัศจรรย์

 

—————–

 

5. อุทยานแห่งชาติแหลมสน (Laem Son National Park) ระนอง (Ranong)

 

 

เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล ตั้งอยู่ทางด้านฝั่งทะเลอันดามัน ในท้องที่อำเภอเมืองระนอง อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง และอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา จุดท่องเที่ยวสำคัญได้แก่ หมู่เกาะกำนุ้ย เป็นเกาะที่สวยงาม มีหาดทรายขาวบริสุทธิ์อยู่เกือบรอบเกาะ เหมาะกับการท่องเที่ยวพักแรมและดูปะการัง นอกจากนี้ยังมีหมู่เกาะกำใหญ่ เกาะหมู เกาะเปียกน้ำน้อย เกาะเปียกน้ำใหญ่ เกาะเทา เกาะค้างคาว เกาะล้าน เกาะกำหนุ่ย เกาะไข่ใหญ่ จุดดำน้ำตื้นที่ดีที่สุดอยู่ที่หาดบางเบน หาดประพาส และหาดแหลมสน

 

—————–

 

6. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ (Mu Koh Surin National Park) พังงา (Phang Nga)

 

 

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์แห่งทะเลอันดามัน ในพื้นที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำตื้นที่ดีที่สุดในเมืองไทย  มี 5 เกาะสำคัญ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี เกาะไข่ และเกาะกลาง จุดดำน้ำลึกอยู่ที่ “กองหินริเชลิว” อยู่ห่างจากเกาะสุรินทร์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้  10 กิโลเมตร ส่วนบ้านพักจะอยู่ที่ “อ่าวช่องขาด” บนเกาะสุรินทร์เหนือ ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวคือเดือนพฤศจิกายน – เมษายน

 

—————–

 

7. อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา (Ao Phang Nga National Park) พังงา (Phang Nga)

 

 

อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา (Phang Nga Bay) มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอเกาะยาว และอำเภอเมืองพังงา  ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่รูปร่างแปลกตาประมาณ 42 เกาะ เช่น เกาะละวะใหญ่ เกาะห้อง เกาะปันหยี เขาจู เขาพิงกัน เขาตะปู เกาะเขาเต่า เกาะพระอาตเฒ่า เกาะโบยน้อย เกาะโบยใหญ่ เกาะรายาหริ่ง เกาะพนัก กิจกรรมห้ามพลาดของที่นี่คือ ดำน้ำชมปะกา่รัง และการนั่งเรือสำรวจเกาะต่างๆ

 

—————–

 

8. หมู่เกาะสิมิลัน (Similan Islands) พังงา (Phang Nga)

 

 

หมู่เกาะสิมิลัน ไข่มุกเม็ดงามแห่งท้องทะเลอันดามัน ประกอบด้วย 9 เกาะ ทอดตัวเรียงกันเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร ได้แก่ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง เกาะปายู เกาะหัวกะโหลก เกาะสิมิลัน และเกาะบางู โดดเด่นด้วยภูผาและโขดหิน หาดทรายขาวเนียนนุ่ม น้ำทะเลสีคราม และโลกใต้น้ำที่อุดมสมบูรณ์  สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก เปิดเกาะให้เที่ยวได้ระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม – 15 พฤษภาคม ของทุกปี

 

—————–

 

9. อุทยานแห่งชาติเขาสก (Khao Sok National Park) สุราษฎร์ธานี (Surat Thani)

 

 

อุทยานแห่งชาติเขาสก เป็นผืนป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดของภาคใต้ ไฮไลท์สำคัญคือ “เขื่อนรัชชประภา” เจ้าของฉายา “กุ้ยหลินเมืองไทย” ที่มีเขาสามเกลอเป็นแลนด์มาร์ก และยังมีถ้ำสวยที่ต้องอาศัยการนั่งเรือเข้าไปชมอีกถึง 3 ถ้ำ ทั้งถ้ำน้ำทะลุ ถ้ำสี่รู และถ้ำประกายเพชร ทุกถ้ำล้วนมีหินปะการัง หินงอกหินย้อยสวยงาม นอกจากนี้ยังมีน้ำตกสวยงามอีกหลายแห่ง เช่น น้ำตกวิ่งหิน น้ำตกบางหัวแรด  น้ำตกบางเลียบน้ำ  น้ำตกโตนกลอย  น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกสิบเอ็ดชั้น น้ำตกแม่ยาย และถ้ำค้างคาว

 

—————–

 

10. หาดเฉวง (Chaweng Beach) สุราษฎร์ธานี (Surat Thani)

 

 

หาดเฉวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะสมุย นับเป็นหาดที่ยาวที่สุดและสวยงามที่สุดของเกาะ ด้วยความยาวถึง 6 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 4 ช่วง คือ หาดเฉวงเหนือ หาดเฉวงกลาง หาดเฉวงใต้ และหาดเฉวงน้อย จุดเด่นคือเป็นหาดทรายขาวละเอียด มีความกว้าง เหมาะสำหรับกิจกรรมริมหาด ระดับน้ำที่ไม่ลึกมาก เหมาะกับการลงเล่นน้ำ และมีจุดสำหรับดำน้ำลึกด้วย อีกทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะสมุย บรรยากาศในยามค่ำคืนเต็มไปด้วยความคึกคัก มีร้านอาหาร ผับบาร์ให้บริการมากมาย

 

—————–

 

11. หาดละไม (Lamai Beach) สุราษฎร์ธานี (Surat Thani)

 

 

หาดละไมเป็นหาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากหาดเฉวง ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะสมุย ห่างจากหาดเฉวงประมาณ 11 กิโลเมตร บรรยากาศเงียบสงบ และมีความเป็นส่วนตัวกว่าหาดเฉวง   โดดเด่นด้วยโค้งอ่าวรูปพระจันทร์เสี้ยว ยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ประมาณ 4 กิโลเมตร หาดทรายสีทองเนื้อละเอียด น้ำทะเลใส มีจุดดำน้ำอยู่หลายจุด ชายหาดทางเหนือของหาดค่อนข้างเงียบสงบ ช่วงที่มีความคึกคึกจะอยู่ทางใต้สุดของหาดละไม เป็นย่านที่คึกครื้นเต็มไปด้วยผับบาร์สีสันยามราตรี มีหินตาหินยายเป็นแลนด์มาร์กของหาด

 

—————–

 

12. เกาะเต่า (Tao Island) สุราษฎร์ธานี (Surat Thani)

 

 

เกาะเต่าเป็นเกาะเล็กๆ ในทะเลอ่าวไทย อยู่ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานีประมาณ 110 กิโลเมตร มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลในฐานะแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย อุดมสมบูรณ์ด้วยปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกขนาดใหญ่ หาดทรายขาวสวย บรรยากาศเงียบสงบ ไฮไลท์ห้ามพลาดคือ “สะพานทราย” สันทรายขาวสะอาด เชื่อมต่อเกาะเล็กๆ 3 เกาะ เข้าด้วยกัน สวยงามโดดเด่นติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก เลยทีเดียว ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับท่องเที่ยว คือ เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน

 

—————–

 

13. เกาะวัวตาหลับ (Wua Ta Lap Island) สุราษฎร์ธานี (Surat Thani)

 

 

เกาะวัวตาหลับ เป็นเกาะศูนย์กลางของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ตั้งอยู่บริเวณอ่าวคา ห่างจากเกาะสมุยประมาณ 32 กิโลเมตร ด้านหน้าของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เป็นหาดทรายขาวสะอาดเหมาะแก่การเล่นน้ำ นอนเล่นพักผ่อนริมหาด บนเกาะยังมีถ้ำบัวโบก ที่มีความแปลกและเด่นทางธรณีวิทยา โดยเฉพาะหินงอกหินย้อยรูปร่างสวยงามดูคล้ายดอกบัวบาน และมีจุดชมวิวผาจันทร์จรัส ระยะทางประมาณ 500 เมตร มองเห็นหมู่เกาะอ่างทองที่ทอดตัวเป็นแนวยาวในทะเลอ่าวไทย รวมถึงกาะพะงัน เกาะเต่าและเกาะนางยวนได้แบบพาโนรามา

 

—————–

 

14. หาดป่าตอง (Patong Beach) ภูเก็ต (Phuket)

 

 

ชายหาดชื่อดังในอำเภอกะทู้ เป็นหาดที่คึกคักที่สุดในภูเก็ต และยังเป็นหาดที่เป็นจุดศูนย์กลางของนักท่องเที่ยว ตลอดแนวชายหาดยาวราว 9 กิโลเมตร ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก บาร์เบียร์และแหล่งชอปปิ้ง นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างประเทศนิยมมาเล่นน้ำ นอนอาบแดด และเล่นกิจกรรมชายหาด ทั้งขี่เจ็ทสกี โดดร่มพาราเซล แล่นเรือใบ หรือเหมาเรือหางยาวไปเที่ยวเกาะต่างๆ

 

—————–

 

15. หาดกะรน (Karon Beach) ภูเก็ต (Phuket)

 

 

หาดกระรนอยู่ระหว่างหาดป่าตองและหาดกะตะ เป็นชายหาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูเก็ต ชายหาดทรายขาวละเอียดทอดยาวกว่า 3 กิโลเมตร บางคนเรียกว่า “ชายหาดร้องเพลง” เนื่องจากเมื่อเดินบนทรายที่ละเอียดนั้น จะมีเสียงดังคล้ายเสียงดนตรีนั่นเอง  ช่วงฤดูมรสุมบริเวณหน้าหาดจะมีคลื่นลมแรง ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ ด้านทิศใต้ของหาดมีแนวปะการังติดต่อกันไปจนถึงเกาะปู เกาะเล็กๆ กลางทะเล มีจุดชมวิวสามอ่าว ให้ชมความงามของอ่าวกะตะน้อย อ่าวกะตะ และอ่าวกะรนได้พร้อมกัน

 

—————–

 

16. อุทยานแห่งชาติสิรินาถ (Sirinat National Park) ภูเก็ต (Phuket)

 

 

อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะภูเก็ต จุดเด่นคือมีชายหาดสวยงามขาวสะอาดยาวต่อเนื่องถึง 13 กิโลเมตร มีชายหาดชื่อดังหลายหาด เช่น  “หาดทรายแก้ว” หาดทรายขาวละเอียด บรรยากาศเงียบสงบ “หาดไม้ขาว” เป็นจุดวางไข่ของจักจั่นทะเลและเต่ามะเฟือง  “หาดในทอน” เป็นเวิ้งอ่าวที่งามแปลกตา บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน “หาดในยาง” เป็นหาดที่มีแนวปะการังขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับดำน้ำชมความงามของโลกใต้ทะเล

 

—————–

 

17. เกาะปอดะ (Poda Island) กระบี่ (Krabi)

 

 

เกาะปอดะ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อยู่ห่างจากฝั่งอ่าวนางประมาณ 8 กิโลเมตร บนเกาะปอดะมีชายหาดขนาบทั้ง 3 ด้าน บริเวณหาดด้านหน้ามีหาดทรายขาวสะอาด  น้ำทะเลสวยใส เหมาะแก่การเล่นน้ำ หาดด้านซ้ายจะมีบรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน ส่วนหาดด้านขวาเป็นจุดจอดเรือหางยาว ด้วยความสวยงามโดดเด่น เกาะปอดะจึงถือเป็นหนึ่งใน 4 เกาะไฮไลท์สำหรับการท่องทะเลกระบี่ ได้แก่ เกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะทับ และเกาะปอดะ

 

—————–

 

18. อ่าวนาง (Nang Bay) กระบี่ (Krabi)

 

 

อ่าวนาง เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 17 กิโลเมตร เบื้องหน้าของอ่าวนางมีกลุ่มเกาะหินปูนน้อยใหญ่รูปร่างแปลกตา ตั้งเรียงรายอยู่ในทะเลอันดามัน ถึง 83 เกาะ เช่น เกาะปอดะ เกาะยาหมัน เกาะบะติงมิ้ง เกาะยาวาซา เกาะลาดิง เกาะหม้อ เกาะทัพ ตลอดถนนเลียบชายทะเลเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร เต็มไปด้วยรีสอร์ท ร้านอาหาร และบริษัททัวร์ให้บริการนำเที่ยวเกาะต่างๆ ของกระบี่ เช่น ทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะพีพี และหมู่เกาะห้อง

 

—————–

 

19. หมู่เกาะพีพี (Phi Phi Islands) กระบี่ (Krabi)

 

 

หมู่เกาะพีพีได้ชื่อว่าเป็น “อาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทร” เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี  หมู่เกาะพีพีมี 2 เกาะใหญ่เป็นจุดท่องเที่ยวหลัก คือ “เกาะพีพีดอน” ที่เป็นศูนย์รวมทุกสิ่งสำหรับนักท่องเที่ยว มีเวิ้งอ่าวใหญ่ 2 อ่าว คืออ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัมโอบล้อมด้วยแนวหน้าผาสูงชัน  ส่วน “เกาะพีพีเล” เป็นเกาะที่มีอ่าวหลายอ่าวอยู่ด้านใน ได้แก่ อ่าวมาหยา อ่าวปิเละ อ่าวโล๊ะซาม๊ะ สวยตระการตา ติด 1 ใน 10 อันดับเกาะที่สวยงามที่สุดในโลก

 

—————–

 

20. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา (Mu Koh Lanta National Park) กระบี่ (Krabi)

 

 

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา  ตั้งอยู่ในอำเภอเกาะลันตา ประกอบไปด้วยเกาะทั้งหมด 25 เกาะ เกาะท่องเที่ยวหลักได้แก่ “เกาะลันตาใหญ่” เกาะใหญ่ที่เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ ครบครันสิ่งอำนวยความสะดวกที่สุด และยังมีชายหาดสวย จุดชมวิวงดงาม วิถีชีวิตชาวเลดั้งเดิมให้เที่ยวชม และยังมีเกาะอื่นๆ อีกเช่น เกาะรอกนอกและเกาะรอกใน ที่มีหาดทรายขาวละเอียดน้ำทะเลใส เกาะห้าหรือเกาะตุกนลิมา มีโพรงถ้ำให้ขึ้นไปชม เกาะหินแดง เกาะไหง เกาะม้า เกาะตะละเบ็ง เกาะไม้งาม ล้วนเป็นเกาะเล็กๆ ที่มีความงามทางทะเลน่าหลงใหล

 

—————–

 

21. อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ (Hat Khanom – Mu Ko Thale Tai National Park) นครศรีธรรมราช (Nakhon Si Thammarat)

 

 

อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ ประกอบด้วยเกาะน้อย เกาะวังใน เกาะวังนอก เกาะแตน เกาะราบ เกาะมัดสุ่ม เกาะท่าไร่ เกาะผี และยังมีอ่าวต่างๆ อีกเช่น อ่าวขนอม อ่าวท้องหยี อ่าวท้องยาง อ่าวคอเขา อ่าวหน้าด่าน อ่าวแฝงเภา อ่าวท้องชิง อ่าวในเพลา โดยมีอ่าวขนอมเป็นอ่าวที่ใหญ่ที่สุด มีชายฝั่งทะเลสวยงามติดต่อกันหลายกิโลเมตร และมี “หาดในเพลา” เป็นจุดท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุด กิจกรรมหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือ นั่งเรือเที่ยวชมโลมาสีชมพู ที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งปากแม่น้ำตลอดอ่าวขนอม

 

—————–

 

22. เกาะนุ้ยนอก (Nui Nok Island) นครศรีธรรมราช (Nakhon Si Thammarat)

 

 

เกาะนุ้ยนอกอยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ ในอำเภอขนอม เป็นเกาะขนาดเล็กรายล้อมด้วยหมู่เกาะเล็กใหญ่ สามารถเดินข้ามระหว่างเกาะได้ในช่วงน้ำลง สุดอันซีนบนเกาะคือ บ่อน้ำจืดกลางทะเลอ่าวไทย ที่มีรูปร่างคล้ายกับรอยเท้ากว้างประมาณ 30 นิ้ว เชื่อกันว่าเกิดจากรอยเท้าของหลวงปู่ทวด กิจกรรมยอดนิยมของเกาะนุ้ยนอกคือ ชมเขาหินพับผ้า หรือ “แพนเค้กร็อก”ที่เกาะถ้ำหรือเกาะท่าไร่ ล่องเรือชมโลมาสีชมพู หากโชคดีอาจได้เห็นโลมาปากขวด และโลมาอิรวดีอีกด้วย

 

—————–

 

23. เกาะลิบง (Libong Island) ตรัง (Trang)

 

 

เกาะลิบงอยู่ในเขตอำเภอกันตัง เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดตรัง อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของแหล่งหญ้าทะเลที่ใหญ่ที่สุด และเป็นแหล่งที่อาศัยของพะยูนมากที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถชมฝูงพะยูนแบบตัวเป็นๆ ได้ที่ “หอชมวิถีสัตว์น้ำ”  หรือ “หอชมพะยูน” ที่อยู่บริเวณปลายสุดของสะพานหลีกภัย ส่วนจุดชมพะยูนอีกแห่งคือ “ยอดเขาบาตูปูเต๊ะ” ซึ่งอยู่สูงกว่าและมองเห็นพะยูนได้ชัดเจนกว่าที่หอชมพะยูน ไฮไลท์ของเกาะคือ “สะพานหิน” เป็นประติมากรรมที่สร้างจากธรรมชาติ โดยการกัดเซาะของน้ำทะเล มองดูเหมือนสะพานที่ทำจากหินนั่นเอง

 

—————–

 

24. เกาะไหง (Ngai Island) ตรัง (Trang)

 

 

เกาะไหง เป็นเกาะเล็กๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ที่รายล้อมไปด้วยเกาะบริวาร เช่น เกาะเชือก  เกาะม้า เกาะแหวน และเกาะมุก ซึ่งเรียงตัวอยู่ทางด้านหน้าและไม่ไกลจากเกาะไหงมากนัก เกาะไหงมีบรรยากาศเงียบสงบ มีหาดทรายสีขาวยาวตลอดแนวฝั่งตะวันออก เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร บริเวณรอบเกาะมีแนวปะการังที่มีความสมบูรณ์ เช่น ปะการังก้อน ปะการังเขากวาง ปะการังกิ่ง กัลปังหา หอยมือเสือ ฟองน้ำ และสาหร่ายทะเล  ฤดูท่องเที่ยวอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน

 

—————–

 

25. หาดเจ้าไหม (Chao Mai Beach) ตรัง (Trang)

 

 

หาดเจ้าไหม เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ตั้งอยูที่ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา ห่างจากตัวจังหวัดตรัง 59 กิโลเมตร  มีจุดท่องเที่ยวสำคัญอย่างเช่น หาดปากเมง หาดฉางหลาง หาดยาว หาดหยงหลิง หาดสั้น และหาดเจ้าไหม ที่มีเขารูปกระโดงฉลามที่โดดเด่นเป็นสัญลักษณ์   เป็นชายหาดที่เหมาะในการเล่นน้ำ เพราะน้ำตื้นและบริเวณกว้าง มองเห็นเกาะลิบงอยู่เบื้องหน้า  ในยามน้ำลงสามารถเดินลัดเลาะโขดหินไปสู่เวิ้งอ่าวเล็กๆ ที่เรียกว่า “อ่าวปอ” ลึกเข้าไปตามตามคลองเจ้าไหมคือที่ตั้งของถ้ำสวยที่ชื่อ “ถ้ำเจ้าไหม” สามารถแล่นเรือเข้าไปความงามภายในถ้ำได้  

 

—————–

 

26. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา (Mu Ko Petra National Park) สตูล (Satun)

 

 

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา   ประกอบด้วยพื้นที่ชายฝั่งทะเล และหมู่เกาะน้อยใหญ่ในทะเลอันดามันมากกว่า 22 เกาะ มีเกาะท่องเที่ยวหลักๆ อย่างเช่น  “เกาะบุโหลน” อยู่ห่างจากท่าเทียบเรือปากบาราประมาณ 22 กิโลเมตร “เกาะเขาใหญ่” โดดเด่นด้วยสะพานธรรมชาติยื่นโค้งเข้าไปในทะเลสวยงามมาก “เกาะเภตรา” และ “เกาะเหลาเหลียง” เป็นเขตสัมปทานการเก็บรังนก “เกาะลิดี”  เกาะเล็กๆ ที่มีหน้าผาและถ้ำเป็นที่อยู่อาศัยของนกแอ่น มีชายหาดให้เล่นน้ำทะเล  เป็นที่ตั้งแค็มป์ของคนรักธรรมชาติ “หาดทรายขาว” บริเวณหาดน้ำใสจนมองเห็นปะการังเขากวางที่มีอยู่มากมาย

 

—————–

 

27. เกาะหลีเป๊ะ (Lipe Island) สตูล (Satun)

 

 

เกาะหลีเป๊ะได้รับการกล่าวขานว่า “มัลดีฟเมืองไทย”  เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ทางใต้สุดของทะเลอันดามันในเขตไทย ห่างจากแผ่นดินของจังหวัดสตูล 85 กิโลเมตร มีชายหาดหลักๆ 3 หาด คือ “หาดพัทยา” เป็นหาดที่เรือทุกลำจอดรับส่งนักท่องเที่ยว และมีถนนคนเดินที่แสนคึกคักในยามค่ำคืนเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ “หาดซันไรส์” จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น  และ “หาดซันเซ็ท”  จุดพระอาทิตย์ตกกลางทะเลที่งดงามมาก นอกจากชายหาดที่สวยงาม เกาะหลีเป๊ะยังมีแนวปะการังอยู่ด้านใต้ของเกาะ และอ่าวเล็กๆ น้อยๆ มากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้ดำน้ำชมโลกมหัศจรรย์ใต้น้ำ

 

—————–

 

28. ทะเลแหวกสันหลังมังกร (San Lang Mangkorn Tan Yong Po) สตูล (Satun)

 

 

ทะเลแหวกสันหลังมังกร ตั้งอยู่ที่ตำบลตันหยงโป อำเภอเมืองสตูล เป็นหาดสันทรายกลางทะเลที่เกิดจากการทับทมของซากเปลือกหอยนับหลายล้านตัว จนกลายเป็นเส้นทางเดินยาวกว่า 4 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างเกาะหัวมันกับเกาะสามกลางทะเลอันดามัน  ในช่วงน้ำลงผืนกรวดสีแดงจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเหนือผืนน้ำ โดยส่วนหัวจะขนาบกับบนเกาะของชาวบ้าน ส่วนหางจะคดเคี้ยวไปตามน้ำเป็นแนวยาวยื่นลงไปในทะเล ที่นี่ยังมีกิจกรรมล่องแพ ชมนก พายเรือชมธรรมชาติ ปล่อยปู ปลูกต้นโกงกาง นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลสดๆ ให้ชิมอิ่มอร่อยอีกด้วย

 

—————–

 

29. แหลมสมิหลา (Samila Beach) สงขลา (Songkhla)

 

 

แหลมสมิหลา มีอีกหนึ่งชื่อเรียกว่า “แหลมหิน” ตั้งอยู่ถัดจากแหลมสนอ่อนในเขตเทศบาลเมือง เป็นชายหาดสวยงามน่าเดินเล่น ทรายขาวละเอียด น้ำไม่ลึกมาก เล่นน้ำได้ ชาวบ้านเรียกว่า “หาดทรายแก้ว”  มีทิวทัศน์ของเกาะหนู-เกาะแมวอยู่เบื้องหน้า  ในวันที่อากาศปลอดโปร่ง เห็นไกลไปถึงเขาเก้าเส้งเลยทีเดียว ไฮไลท์ของแหลมสมิหลา คือปฏิมากรรมรูปนางเงือกทองนั่งอยู่บนโขดหิน อันเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสงขลา  ว่ากันว่าถ้าไม่ได้จับนม “นางเงือก” ถือว่ามาไม่ถึงสงขลา

 

—————–

 

30. หาดชลาทัศน์ (Chalathat Beach) สงขลา (Songkhla)

 

 

หาดชลาทัศน์ เป็นชายหาดยาวต่อเนื่องมาจากหาดสมิหลา ขึ้นชื่อเรื่องความเงียบสงบ หาดทรายขาวสะอาด เล่นน้ำได้ตลอดแนว ลักษณะของหาดค่อนข้างเป็นเส้นตรง มีถนนชลาทัศน์เลียบแนวชายหาด และมีแนวต้นสนให้ความร่มรื่นยาวตลอดหาด  เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือหางพญานาคที่สร้างส่วนเศียรไว้ที่สวนสองทะเล ส่วนกลางลำตัวหรือสะดือพญานาคอยู่บริเวณสี่แยกสระบัว ระยะจากเศียรถึงส่วนหางประมาณ 4 กิโลเมตร

 

ใครกำลังมองหาที่เทีี่ยวหลบร้อน รับรองว่าไม่ผิดหวังกับ “30 จุดเช็คอินภาคใต้ ฟิลซัมเมอร์” ที่มีวิวสวยอลังการ ชายหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใส เหมาะกับการใช้ช่วงเวลาวันหยุดมาพักผ่อนชาร์จพลังงานชีวิตสุดๆ