16. พระปฐมเจดีย์ – นครปฐม
เพราะการไหว้พระเป็นกิจกรรมที่ไม่ต้องอาศัยฤดูกาล และนี่คือหนึ่งพิกัดที่อยากชวนสายบุญทั้งหลายให้มาเช็คอินกันด้วยจ้า เนื่องจากนี่คือพระสถูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งไม่ปรากฏระยะเวลาการสร้าง แต่สันนิษฐานกันว่าอาจจะเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอโศกมหาราชโน่นเลยเด้อ โดยได้รับการบูรณะต่อมาอีกหลายครั้งจนกลายเป็นองค์เจดีย์สุดอลังการมองเห็นได้แต่ไกล ต้องมาให้ได้ซักครั้งในชีวิตเลยน้า
17. หาดใหญ่ – สงขลา
อีกหนึ่งหัวเมืองใหญ่ทางภาคใต้ที่เดินทางง่ายและเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ที่สำคัญคือเชื่อว่าจะแฮปปี้กันทุกกลุ่มเป้าหมายเลยด้วยจ้า เพราะถ้าเป็นสายช้อปก็มีตลาดกิมหยงให้จับจ่าย สายธรรมชาติก็ต้องไปน้ำตกโตนงาช้าง นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นเขาคอหงส์ หรือเดินทางต่ออีกนิดเข้าเมืองสงขลาไปแฮปปี้กับหาดสมิลาแสนสวย สายกินก็ฟินกับถนนนางงามในตัวเมืองนั่นละ แล้วอย่าลืมแวะไปเก็บภาพมัสยิดสงขลาตอนเย็นๆ ที่สวยน่าประทับใจด้วยนะ เป็นไงล่ะ ครบทุกฟีลมั้ย? ไม่ต้องรอแล้วจ้า จองตั๋วเครื่องบินในประเทศพุ่งมาแลนดิ้งกันได้เลย
18. ดอยตุง – เชียงราย
สำหรับคนรักความสวยของไม้ดอกเมืองหนาวในบรรยากาศที่มีภูเขาโอบล้อม เชื่อว่าดอยตุงต้องเป็นหนึ่งในพิกัดที่คุณย่อมต้องเคยเล็งๆ ไว้บ้างละ ช่วงปลายฝนไปจนถึงฤดูหนาวนั้นถือว่าเป็นช่วงพีคของที่นี่เพราะอากาศจะดีมาก แต่ถ้าหากคุณไม่อยากเบียดเสียดกับผู้คนมากมายนัก การมาที่นี่ในช่วงฤดูร้อนก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะแม้จะไม่ได้เจอกับอากาศหนาวนะ แต่สถานที่ต่างๆ จะคนน้อยจนเป็นเหมือนพื้นที่ส่วนตัวของคุณไปเลยจ้า นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
19. วัดป่าภูก้อน – อุดรธานี
อีกหนึ่งวัดสวยของภาคอีสานซึ่งมีไฮซีซั่นเป็นช่วงหน้าหนาวเพราะอากาศดี๊ดี แต่บอกตรงนี้ว่าหน้าฝนก็สวยไม่แพ้ใครเลยจ้า เพราะว่าเราจะได้เห็นทิวทัศน์ป่าไม้รอบๆ เป็นสีเขียวสดชื่นตา แถมยังอาจจะได้เห็นทะเลหมอกในช่วงเช้ามืดอีกด้วยเด้อ ส่วนหน้าร้อนนั้นแม้ความเย็นจะสู้ช่วงอื่นไม่ได้ แต่ไฮไลท์ของที่นี่นั้นคือองค์พระนอนที่อยู่ด้านในโบสถ์ซึ่งไม่ร้อนจ้า แต่ถ้าอยากเที่ยวให้ฟินนะ แนะนำว่ามาช่วงเช้ามืดหรือบ่ายแก่ๆ จะสบายกว่าตอนกลางวันแน่นอนเด้อ
20. ย่านเมืองเก่าภูเก็ต – ภูเก็ต
ความสวยของอาคารสไตล์ชิโน – โปรตุกีสในย่านนี้นั้นสวยชนะเลิศอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน และไม่ว่าจะหนาว ร้อน หรือฝนตก ภูเก็ตก็ยังเดินทางง่าย และเที่ยวได้ตลอดทุกเวลา เพราะที่เที่ยวในตัวเมืองส่วนใหญ่นั้นเป็นร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือพิพิธภัณฑ์เท่ๆ ที่ไม่ง้อสภาพภูมิอากาศซักเท่าไหร่ ถ้าชอบฟีลการเที่ยวในตัวเมืองที่เน้นไลฟ์สไตล์ชิคๆ คูลๆ สบายๆ นะ จองตั๋วเครื่องบินในประเทศมาเมืองเก่าภูเก็ตเลยจ้า รับรองว่าไม่ผิดหวังชัวร์
21. หินสามวาฬ – บึงกาฬ
บึงกาฬคือหนึ่งในจังหวัดใหม่เอี่ยมที่เพิ่งผุดขึ้นมาของประเทศไทย ที่นี่จึงมีที่เที่ยวน่าสนใจให้ปักหมุดกันเพียบเลยจ้า ซึ่งหินสามวาฬก็คือหนึ่งในพิกัดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่นี่เลยเด้อ เพราะเป็นที่เที่ยวซึ่งไม่เหมือนใคร และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยที่สุดอีกจุดหนึ่งเลยด้วยนะ หน้าหนาวคือไฮซีซั่นจ้า แต่ถ้ามาหน้าร้อนก็จะค่อนข้างเดินทางได้ง่ายและมีนักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก ส่วนหน้าฝนนั้นอาจจะเดินทางยากแต่ก็มีลุ้นดูทะเลหมอกเป็นรางวัลนะ สรุปคือมาได้ทั้งปีเลยจ้า พร้อมเมื่อไหร่ก็มาได้เลย
22. เกาะกูด – ตราด
เกาะใหญ่อันดับสองของเมืองสุดปลายภาคตะวันออกอย่างตราดแห่งนี้ มีน้ำทะเลสีฟ้าใสและหาดทรายขาวละเอียดสะอาดตา จนหลายคนขนานนามให้ว่านี่คือมัลดีฟส์เมืองไทยอีกแห่งเลยทีเดียว และแม้ว่าจะเป็นเกาะ แต่ทางภาคตะวันออกนั้นมีฤดูมรสุมที่ค่อนข้างรุนแรงน้อยกว่าทางใต้ จึงทำให้ยังเดินทางเที่ยวได้อยู่ตลอดจ้า หน้าหนาวถึงร้อนความสวยจะพีคสุดๆ นะ แต่ช่วงหน้าฝนบนเกาะกูดน่ะ ผู้คนไม่หนาแน่นมากมาก ถ้าอยากได้ฟีลเที่ยวเกาะส่วนตัวก็จัดไป
23. สระมรกต – กระบี่
สระน้ำอุ่นสีฟ้าใสขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในวงล้อมของป่าไม้สีเขียวขจี และด้วยความที่ไม่ต้องลงเรือฝ่าคลื่นออกไปไหน ทำให้นี่คือพิกัดเที่ยวใต้ที่ไปได้ตลอดปีเลยจ้า ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนก็จองตั๋วเครื่องบินในประเทศพุ่งตรงไปเที่ยวกระบี่ได้เลยน้า ยิ่งใครชอบแช่ออนเซ็นก็คือเหมาะกับจังหวัดนี้มากจ้ะ เพราะในกระบี่มีพิกัดให้ไปนอนแช่ชิลล์ๆ กันหลายแห่งเลยนะ ฤดูกาลไหนก็ฟินได้หมดจ้า รับรอง
24. บ้านคีรีวง – นครศรีธรรมราช
หมู่บ้านเล็กๆ ในอ้อมกอดของขุนเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตโอโซนระดับท้อปของเมืองไทย เพราะไม่ว่าจะเป็นช่วงไหน ที่คีรีวงก็จะอากาศดี๊ดี หน้าร้อนไม่ร้อนจัดเพราะอยู่ใกล้ป่า ส่วนหน้าหนาวก็บอกเลยว่าเย็นสบาย เดินเล่นหาของกินริมคลองท่าดีที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน แล้วแวะไปทำเวิร์คช็อปในกลุ่มผลิตงานฝีมือที่มีให้เลือกหลากหลายก็เพลินนะ หน้าฝนจะเย็นฉ่ำแถมยังอาจจะได้เห็นหมอกบางๆ ด้วยจ้า แต่ถ้าปีไหนฝนตกหนักก็ต้องเช็คสภาพอากาศก่อนนะ เพื่อความปลอดภัย
25. พระธาตุพนม – นครพนม
องค์พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นศูนย์รวมศรัทธาแบบสุดพีคแห่งหนึ่งของภาคอีสาน ที่ทั้งชาวไทยและชาวลาวต่างก็ให้ความเคารพนับถือกันมาต่อเนื่องยาวนานจากอดีตจนถึงทุกวันนี้ ช่วงฤดูหนาวอากาศก็เย็นสบาย ช่วงหน้าฝนก็ชุ่มฉ่ำชื่นใจสุดๆ จ้า หน้าร้อนนั้นจะชิลล์ในช่วงเช้าหรือเย็นที่แดดร่มหน่อยนะ แวะไหว้พระธาตุประจำวันเกิดของคนวันอาทิตย์แห่งนี้เรียบร้อยเมื่อไหร่ ก็ไปเดินเล่นชิลล์ๆ ริมโขงกันได้เลยจ้า นครพนมเป็นเมืองน่ารักมากน้า เชื่อว่าชาวสโลว์ไลฟ์ต้องถูกใจ
26. ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง – ยะลา
อำเภอเบตง จังหวัดยะลา อาจจะเป็นพิกัดนอกสายตาที่หลายคนยังไม่เคยได้ไป แต่จริงๆ แล้วที่นี่มีของดีของเด็ดอยู่เพียบเลยจ้า อย่างที่อัยเยอร์เวงนี้ก็เป็นจุดชมทะเลหมอกหนาๆ บนภูเขาสูงกว่าสองพันฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ในเขตพื้นที่ภูเขาชื่อเก๋ว่าเขาไมโครเวฟ! ที่นี่เป็นจุดชมทะเลหมอกซึ่งสวยที่สุดของภาคใต้และมาชมกันได้ตลอดปีเลยจ้า แถมยังมีสกายวอล์คหน้าตาไฮเทคซึ่งยาวที่สุดในอาเซียน และมีทางเดินพื้นกระจกใสยื่นไปในอากาศยาวที่สุดในโลกให้เช็คอินกันด้วยนะ ถ้าสนใจเตรียมรอจองตั๋วเครื่องบินในประเทศไปประเดิมสนามบินเบตงกันเลยจ้า เค้าจะเปิดใช้ในปี 64 นี้แล้วนะ ปังมากจ้ะ ลงลิสต์เลย
27. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม – กรุงเทพฯ
อีกหนึ่งวัดสำคัญซึ่งถือเป็นไฮไลท์ในเมืองฟ้าอมร และเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ซึ่งรวบรวมเอาสถาปัตยกรรมที่ละเอียดอ่อนสวยงามไม่เหมือนที่ไหนไว้เพียบเลยจ้า มาแล้วต้องอย่าลืมลองนวดแผนไทยซึ่งถือว่าที่นี่เป็นแหล่งต้นกำเนิดกันด้วยน้า ที่สำคัญคือการมากราบองค์พระพุทธไสยาสน์ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเมืองไทย ที่หลายคนบอกว่าให้อานิสงส์ในเรื่องความรักด้วยจ้ะ จองตั๋วเครื่องบินในประเทศมาด่วนๆ เลยนะ ช่วงนี้เที่ยวแบบโล่งๆ ไปเลยจ้า ชิลล์จริงๆ
28. วัดผาตากเสื้อ – หนองคาย
อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวซิกเนเจอร์ของเมืองริมโขงอย่างหนองคาย ซึ่งมาที่เดียวก็ได้ทั้งไหว้พระและได้ชมวิวสวยๆ ในมุมสูงของแม่น้ำโขงและฝั่งลาวไปด้วยพร้อมๆ กัน เพราะที่นี่เค้ามีสกายวอล์คทางเดินกระจกใสให้ได้เดินดูวิวไปลุ้นไปกันด้วยจ้า หน้าหนาวก็อากาศเย็นสบาย หน้าฝนก็มีลุ้นได้ชมทะเลหมอกสวยๆ ลอยเหนือแม่น้ำโขงกันด้วยน้า ส่วนหน้าร้อนตอนเช้าและเย็นก็ฟีลกู้ดมากจ้า คนไม่เยอะด้วยนะ เราว่ามาตอนไหนก็เพลิน
29. แหลมพรหมเทพ – ภูเก็ต
จุดชมพระอาทิตย์สุดคลาสสิกซิกเนเจอร์ยืนหนึ่งของภูเก็ตแห่งนี้ จะฤดูไหนของปีก็ยังสวยเว่อร์ สมศักดิ์ศรีที่ถูกบรรจุเป็นหนึ่งในจุดชมวิวยามเย็นที่สวยที่สุดของเมืองไทยแบบไม่มีแผ่วเลยละ และเพราะอยู่ไม่ไกลนักจากใจกลางเมืองจึงเดินทางได้สะดวกมาก ไม่ว่าจะมาเดือนไหนฤดูไหนก็มาเช็คอินกันได้ตลอดๆ เลยละ สวยคุ้มโรแมนติกมากเลยนะ จองตั๋วเครื่องบินในประเทศตรงมาภูเก็ตได้เลยจ้า สวยคุ้มค่าการเดินทางอย่างแน่นอน
30. ริมน้ำสะแกกรัง – อุทัยธานี
เป็นพิกัดเช็คอินที่สายชิลล์รักความสโลว์ไลฟ์จะตกหลุมรักเอาได้ง่ายๆ เลยเชียวละ เพราะอุทัยธานีนั้นนับว่าเป็นเมืองรองที่ไม่พลุกพล่าน และมีบรรยากาศแบบวิถีชาวบ้านสุดสบาย จะเป็นวัดหรือตลาดท้องถิ่นริมน้ำก็มีให้เดินเล่นกันได้แบบเพลินมากจ้า ยิ่งถ้ามองหาแพริมน้ำนอนพักค้างแรมกันซักคืนนะจะยิ่งฟินสุดๆ ไปเลยละ ถ้าชอบเที่ยววิถีไทยแบบสงบสบายไม่พลุกพล่าน และถ้ารักชีวิตสไตล์ท้องถิ่นที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งมากมายนะ จะหลงรักเมืองอุทัยฯ ได้ไม่ยากเลย
เพราะเมืองไทยนั้นมีพิกัดให้เที่ยวกันได้ตลอดทั้งปี ลองมองหาพิกัดที่ถูกใจจากที่เราเอามาฝากกันคราวนี้ไปลองพิจารณาดูน้า ล็อกเป้าหมายได้แล้วก็จองตั๋วเครื่องบินในประเทศไปเช็คอินกันได้เลยจ้า จะร้อน ฝน หนาว ก็ไม่ต้องแคร์แล้วนะ อยากไปต้องได้ไปจ้ะ ขอแค่ได้ไปเที่ยวเถอะน่า รับรองว่าฤดูไหนก็ฟินทั้งนั้นแหละ!